ค้าปลีก ค้าส่งชายแดนคึก รับเปิดประชาคมอาเซียน
ช่วยกันคิดช่วยกันคุย : ค้าปลีก ค้าส่งชายแดนคึก รับเปิดประชาคมอาเซียน : โดย...ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจทีเอ็มบี
ในปี 2557 การค้าที่เกิดขึ้นในพื้นที่ชายแดนที่ติดต่อกับประเทศเพื่อนบ้านมีมูลค่าประมาณ 229 พันล้านบาท และเติบโตเฉลี่ย 9.5% ตั้งแต่ปี 2555 เป็นต้นมา ด้วยอานิสงส์จากกำลังซื้อในท้องถิ่นและจากประเทศเพื่อนบ้าน อันได้แก่ กัมพูชา ลาว พม่า ซึ่งเป็นตลาดเกิดใหม่ทางเศรษฐกิจที่มีอัตราการเติบโตเฉลี่ยไม่น้อยกว่า 6% ต่อปี ตลาดเหล่านี้จึงมีความต้องการสินค้าสูง ตั้งแต่ประเภทสินค้าอุปโภคบริโภค ไปจนถึงสินค้าอุตสาหกรรมที่ยังไม่มีการผลิตในประเทศ
จากสภาพภูมิศาสตร์ที่เชื่อมต่อกับทั้ง 3 ประเทศ ซึ่งมีจุดผ่านแดนรวมกันถึง 89 แห่ง มีจำนวนคนผ่านแดนมากกว่าถึง 2 ล้านคนต่อปี โดยพรมแดนไทย-สปป.ลาว มีจุดผ่านแดนถาวรและผ่อนปรน 46 แห่ง มีจำนวนคนผ่านแดนในช่วงปี 2555-2557 เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 9.7% ต่อปี พรมแดนไทย-พม่า มีอัตราการเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 27.8% ต่อปี จากจุดผ่านแดนรวม 19 แห่ง ในส่วนของพรมแดนไทย-กัมพูชา มีจุดผ่านแดนรวม 15 แห่ง
นอกจากนี้ ความเจริญของเมืองที่กระจายออกไปก็เป็นปัจจัยที่ช่วยเร่งกระแสการบริโภคของผู้คนในพื้นที่ติดชายแดน โดยเฉพาะการค้าที่มีลักษณะนำติดตัวไปบริโภคและการค้าด้วยเงินสดถือเป็นรูปแบบหลักที่ใช้กัน ทำให้การจับจ่ายซื้อหาสินค้าอุปโภคบริโภคในพื้นที่ติดชายแดนมีมูลค่าสูงกว่าพื้นที่อื่นๆ ของประเทศ เห็นได้จากการเติบโตมูลค่าค้าปลีกค้าส่งในจังหวัดที่ติดชายแดนในช่วงปี 2555-2557 รวมถึงปัจจัยของนโยบายรัฐในการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษเพื่อส่งเสริมสนับสนุนให้เกิดการค้าการลงทุนอย่างเด่นชัดตั้งแต่ปี 2557 เป็นต้นมา เพื่อรองรับการเข้าสู่การเป็นประชาคมอาเซียน ช่วยให้เศรษฐกิจจังหวัดเหล่านี้ยังคงเติบโตอย่างรวดเร็ว
ในปี 2558 ไทยกำลังจะก้าวเข้าสู่ประตูการค้าที่มีตลาดใหญ่ขึ้น จึงถือเป็นโอกาสสำหรับธุรกิจที่จะขยายตลาดได้มากขึ้น จากต้นทุนค่าขนส่งที่ต่ำกว่าด้วยแนวโน้มระบบขนส่งโลจิสติกส์ทางรถไฟ ถนนที่จะเชื่อมโยงมากขึ้นกับภูมิภาคนี้ โดยไทยตั้งอยู่ในจุดยุทธศาสตร์ที่ได้เปรียบในการขนส่งกระจายสินค้า ตามโครงการระเบียงเศรษฐกิจอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง (GMS Economic Corridors) ที่จะพัฒนาทั้งในแนวพื้นที่เศรษฐกิจเหนือใต้และแนวพื้นที่เศรษฐกิจตะวันออก-ตะวันตก ส่งผลดีต่อการค้าการลงทุนมากขึ้น ทางศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจทีเอ็มบี จึงประเมินว่าธุรกิจค้าปลีกค้าส่งชายแดนจะมีโอกาสขยายตัวเพิ่มขึ้นได้อีกไม่น้อยกว่า 10% ต่อปี ในช่วง 3 ปีข้างหน้า
โอกาสของธุรกิจไทยจึงยังเปิดกว้างอยู่ ภายใต้พฤติกรรมการบริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปสู่ความเป็นเมืองมากขึ้น มีความต้องการที่หลากหลาย ผู้ประกอบการค้าปลีกค้าส่งชายแดนเองต้องปรับตัวเข้าสู่รูปแบบการค้าสมัยใหม่ด้วยเช่นกัน แม้ว่าคุณภาพสินค้าไทยยังเป็นที่นิยม แต่จำเป็นต้องตอบโจทย์ให้ตรงกับพฤติกรรมของผู้บริโภคในแต่ละประเทศมีความแตกต่างกัน เพื่อช่วยให้สามารถแข่งขันกับคู่แข่งในประเทศและนักลงทุนต่างชาติที่มุ่งสู่ตลาดนี้มากขึ้น
-----------------------
(ช่วยกันคิดช่วยกันคุย : ค้าปลีก ค้าส่งชายแดนคึก รับเปิดประชาคมอาเซียน : โดย...ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจทีเอ็มบี