วันที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2558 เวลา 15:07 น.
จากกรณีพบศพ"เสี่ยอู๊ด"นายสิทธิกร บุญฉิม อายุ 44 ปี นักสร้างพระชื่อดัง กลายเป็นศพในโรงแรมแห่งหนึ่งใน จ.พิษณุโลก เบื้อ งต้นคาดว่าเสียชีวิตมาแล้ว 2 วัน อย่างไรก็ตาม ตำรวจพบจดหมายลาตายที่เขียนตัดพ้อ สั่งน้องชายให้เผาเลย ไม่ต้องมีพิธีบำเพ็ญกุศล เบื้องต้น ตำรวจสอบสวนพบว่าเสี่ยอู้ดเปิดห้องพัก 9 วัน และพบยา XIEMED (Alprazolam) เป็นยาในกลุ่มที่ออกฤทธิ์กดระบบประสาทและช่วยให้นอนหลับ คาดว่าเสี่ยอู๊ดอาจกินยาเพื่อฆ่าตัวตาย ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าเรื่องนี้ เจ้าหน้าที่ได้เก็บหลักฐานอย่างละเอียด โดยภายในห้องพบขวดน้ำดื่มโออิชิจำนวน 3 ขวด กระเป๋าเสื้อผ้าของผู้เสียชีวิต และจดหมายสั่งลา วางไว้บนโต๊ะแต่งหน้า
นอกจากนี้ ยังพบยา XIEMED (alprazolam) เป็นยาในกลุ่มที่ออกฤทธิ์กดระบบประสาทส่วนกลาง ใช้สำหรับรักษาอาการวิตกกังวล และช่วยให้นอนหลับ จำนวนมากในถุงพลาสติกจำนวน 20 แผง และพบร่องรอยการแกะรับประทานไปแล้วจำนวน 10 แผง แผงละ 10 เม็ด ประมาณ 100 เม็ด และยาส่วนตัวของผู้เสียชีวิตเป็นยารักษาโรคมะเร็ง โรงพยาบาลมะเร็งลพบุรี ไม่พบร่องรอบการทำร้ายร่างกาย จากการชันสูตรพบว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 2 วัน หลังจากตรวจสอบที่เกิดเหตุแล้ว แพทย์เวร ได้ให้จนท.กู้ภัยข่าวภาพนำร่างนายสิทธิกร ไปชันสูตรโดยละเอียดอีกครั้ง ที่นิติเวชโรงพยาบาลพุทธชินราช
จากการสอบถามเจ้าของโรงแรมดัง โดยไม่ยอมเปิดเผยชื่อ กล่าวว่า ผู้เสียชีวิตเพิ่งมาพักที่นี่เป็นแห่งแรก โดยมีผู้ชายพามาเปิดห้องพัก ซึ่งมาเปิดห้องพักตั้งแต่วันที่ 21 ต.ค.ที่ผ่านมา ได้ออกมาจากห้องพักและกินข้าวทุกวัน และจ่ายเงินห้องพักวันต่อวัน กระทั่งสามวันก่อน ผู้ตายได้บอกแม่บ้านว่า ไม่ให้ใครรบกวน จากนั้นก็เงียบหายไป กระทั่งเมื่อคืนวันที่ 29 ตุลาคม 2558 เพื่อนชายคนดังกล่าวมาหาผู้ตายที่ห้องพักและขึ้นไปเคาะประตู แต่ไม่มีเสียงตอบรับ จึงลงมาข้างล่างพบแม่บ้าน เพื่อโทรศัพท์ขึ้นไปที่ห้องพัก แต่ไม่มีคนรับจึงคิดว่านอนหลับแล้ว นายสุรพันธ์จึงกลับไป กระทั่งเช้านี้เวลาประมาณ 09.00 น. เพื่อนได้กลับมาอีกครั้ง ตนและแม่บ้าน จึงนำกุญแจสำรองไปเปิดห้องพัก และพบว่า นายสิทธิกร ได้เสียชีวิตไปแล้ว
สำหรับเนื้อหาในจดหมายลาตาย ระบุว่า (ภูมิใจ) จากเด็กกำพร้ายากจนมีวุฒิ ม.3 ได้หาเงินช่วยเหลือสังคม ประเทศชาติ พระพุทธศาสนา ก่อเกิดสาธารณะประโยชน์เป็นวัด โรงเรียน โรงพยาบาล สถานศึกษา มหาวิทยาลัยสงฆ์ องค์กรการกุศล สงเคราะห์ผู้ยากไร้ อุปการะเยาวชนให้เล่าเรียน คิดเป็นมูลค่าสินทรัพย์ และเงิน รวมๆ บริจาคไปกว่า 3000 ล้านบาท กระจายอยู่ทั่วแผ่นดิน ทั้งที่คนรู้และไม่รู้ (เสียใจ) ที่หาเงินได้มากมาย แต่ไม่เคยเก็บสะสมสร้างฐานะ เพราะมัวแต่ช่วยเหลือผู้อื่นไม่เคยช่วยพี่น้อง ช่วยสาธารณะจนตัวเองเดือดร้อน ผลตอบแทนกลับมาให้เสื่อมเสีย ไม่มีความดีและความจริง จากผู้ที่ได้รับความช่วยเหลือไปจะเป็นจริงอย่างถาวร “ดีชั่ว ถูกผิด ยึดติดใครไม่ได้”
(คำสั่ง) หากเสียชีวิตที่พิษณุโลก ให้น้องชายขึ้นมาจัดการศพ ทำการเผาทันที ไม่ให้จัดพิธีการใดๆ ไม่ให้บำเพ็ญกุศล เพราะไม่ต้องการให้พี่น้องเดือดร้อน ไม่ต้องการให้คนอื่นเข้ามายุ่งยากที่สำคัญผมทำบุญไว้เยอะแล้วไม่มีใครจะทำบุญให้ผมได้ เท่าตัวผมทำตอนอยู่ ท้ายสุดฝากบอกบุญ เชิญคนไทยไปบริจาคทรัพย์รับพระกริ่ง ซึ่งผมบริจาคไว้ 75 ล้านบาท ช่วยสร้างอาคารศูนย์ดูแลผู้สูงอายุระยะยาวของคณะแพทย์ศาสตร์ มช.นะครับ ฝากคำคมข้อคิดจากบัณฑิต ม.3 “ดีที่สุด คือหยุดอยาก..ดียาก คืออยากที่สุด สิทธิกร วันออกพรรษา ปี 2558
นายสุรพันธุ์ โหมดไทย อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 179 หมู่ 7 ต.ปากโทก อ.เมือง จ.พิษณุโลก เพื่อนของเสี่ยอู๊ด ผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ตนเองได้รู้จักกับผู้ตายมาตั้งแต่เมื่อปลายปี 2556 จากนั้นก็ได้ติดต่อกันเรื่อยมาจนกระทั่งล่าสุดผู้ตายได้ติดต่อตนเองมาจากไลน์ส่วนตัวว่าจะมาเที่ยวที่จังหวัดพิษณุโลกวันที่ 21 ต.ค. และมาพักอยู่ที่โรงแรมที่เกิดเหตุใน อ.เมืองพิษณุโลก ช่วงที่ผู้ตายมาพักอยู่นั้นตนเองก็แวะมาหาผู้ตายทุกวันโดยมีหน้าที่มารับไปทานอาหาร รับเสื้อผ้าไปซักทุกวัน จนกระทั่งที่เจอกับผู้ตายครั้งสุดท้ายเมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 27 ต.ค. ผู้ตายได้ไลน์มาหาตนเองว่าให้มารับไปทานข้าว ตนเองได้ขับรถจักรยายนต์มาจากร้านนมที่ตนดูแลอยู่ช่วงเวลา 14.00 น. และไปทานที่ร้านอาหาร ร้านส้มตำปู่เสื่อ ห่างจากที่พักประมาณ 15 กิโลเมตร ก่อนจะกลับมาส่งที่ห้องพัก หลังจากนั้นก็ไม่ได้ติดต่อกันอีกเลย จนกระทั่งกลางดึกของเมื่อคืนที่ผ่านมาตนเองเห็นว่าผู้ตายได้เงียบหายไปจึงได้มาหาที่พักขึ้นไปเคาะประตูห้องพักแต่ไม่มีเสียงตอบรับจึงได้กลับมาติดต่อที่เคาน์เตอร์เพื่อให้โทรศัพท์ขึ้นไปที่ห้องพัก และขึ้นไปเปิดประตูกับแม่บ้าน พบเสียชีวิตดังกล่าว