วันที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2558
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 23 ก.ค. ที่สตูดิโอ เวิร์คพอยท์ ปทุมธานี ศิลปินตลกชื่อดัง โหน่ง ชะชะช่า พร้อมด้วย หม่ำ จ๊กมก แถลงข่าวเปิดใจกรณีที่มีหนุ่มปริศนาอ้างว่าเป็นลูกออกมาโพสต์ระบายในโลกโซเชียลว่ามีพ่อเป็นตลกดัง แต่ไม่ยอมรับเป็นลูก
โดยโหน่ง เผยว่า “เรื่องราวที่เกิดขึ้น ก็มีคนติดต่อมาจริง ตอนแรกผมคิดว่าเป็นเรื่องอำเล่น เพราะมีคนมาอำในลักษณะนี้เยอะมาก ยอมรับว่าตกใจแต่ก็คิดว่าเป็นการอำ แต่พอข่าวมันเริ่มดังขึ้น ก็เลยคิดว่าสงสัยไม่อำแล้ว ซึ่งวันนั้นที่มีคนติดต่อมา ผมกำลังอัดรายการชิงร้อยชิงล้าน เขาก็เขียนมาในแช็ตเฟซบุ๊กว่า จำเมื่อ 20 ปีก่อนได้ไหม ที่พระประแดง แม่ผมบอกว่าคุณโหน่งเป็นพ่อผม สุดท้ายผมก็เลยบล็อกเฟซเขาไป เพราะก่อนหน้านี้ มีคนมาทักเฟซลักษณะนี้กับผมมากๆ แต่ผมก็ไม่ได้ใส่ใจ จนมีน้องคนนี้แหละที่ว่าเป็นหนึ่งในแก๊งสามช่าที่เจาะจงเป็นผมว่าเป็นพ่อน้องเขา
วันนี้ผมไม่ได้ออกมาปฏิเสธเขา ผมออกมาเพื่อบอกว่า ผมมีลูกเพิ่มอีกคนหนึ่ง ผมรู้สึกดีใจ แต่น้องเขาไม่ได้มาหาผม จริงๆ ผมหาตัวไม่ยากหรอก ให้มาหาที่เวิร์กพอยท์ได้ แต่น้องเขาอาจจะไม่กล้ามา ก็อยากจะให้น้องเขามาหา ตัวผมยินดี เขาบอกว่าผมเป็นพ่อ ผมก็ยอมรับว่าผมเป็นพ่อ ไม่ต้องตรวจดีเอ็นเอหรอก”
“ส่วนเรื่องที่หลายคนมองว่าผมจะยอมรับโดยที่ไม่ตรวจดีเอ็นเอเลยเหรอ ใช่ครับ ผมยอมรับ ในเมื่อเขาบอกว่า คุณโหน่งคือพ่อของเขา ผมก็ยอมรับ เพราะสมัยเมื่อ 20 ปีก่อน ผมยอมรับว่าก็มีเกเรบ้าง อาจจะมีการผิดพลาดไป กับเหตุผลที่ทำให้ผมมั่นใจว่าน้องเขาเป็นลูก
เพราะเมื่อ 20 ปีก่อนผมเกเรจริงๆ ซึ่งถ้าเรื่องนี้สมมติเป็นการมโนขึ้นมาของน้องเขา ผมว่าถ้าเป็นผมนะ ก็ต้องทำแบบน้องเขา คืออยากเจอพ่อ ก็ต้องทำแบบนี้ ในเมื่อส่งข้อความมาแล้ว แต่ตอนแรกที่ผมปฏิเสธเขาเพราะนึกว่าอำจริงๆ
และถ้าเป็นผมก็ต้องตามหาพ่อ ไม่ต้องการอะไรจากพ่อ แค่อยากให้พ่อกอดและพูดคำว่าลูกกับเขา ยอมรับเขา และผมก็ไม่คิดว่าเขาจะมาสร้างกระแสหรือดิสเครดิตกับผมนะ ผมว่าไปสร้างกระแสกับพี่หม่ำ จะไม่ดีกว่าเหรอ เพราะเขาดังกว่า รวยกว่าผมอีก จริงๆ ก่อนหน้านี้มีหลายคนเข้ามาบอกว่ามีลูกกับเรามากมาย ผมก็ถูกอำจนชินไปแล้ว แต่ถ้าในอนาคตเกิดมีคนมาบอกว่าเป็นลูกผมอีก ก็มาเลยครับ ผมยินดี ผมว่าดีซะอีกมีลูกหลายคน
ด้านภรรยาของผมคุณนกก็บอกว่าดีเลยจะได้มีคนมาช่วยงานที่ร้าน บอกให้น้องเข้ามาเลย เมียผมโอเคนะ ส่วนลูกชายทั้งสองคนของผม ตอนแรกก็คิดว่าเขาอำเหมือนกัน เขาก็ไม่ได้คิดอะไรมาก ถือว่ามีน้องชายเพิ่มขึ้นมาอีกคนหนึ่ง มาช่วยกันทำมาหากิน ส่วนตัวน้องเองผมก็ยังไม่เคยเจอตัวจริงน้องเขา แต่ถ้าน้องจะมาหาผม ก็ยินดีเลย ซึ่งผมก็คิดว่าน้องเขาอาจจะไม่กล้า กลัวมาแล้วถูกปฏิเสธ ผมเลยอยากบอกตรงนี้ว่ามาหาพ่อเลยลูก 20 ปีที่ผ่านมา พ่อขอโทษ มันผ่านไปแล้ว”
ผู้สื่อข่าวถามต่อไปว่า หลังจากมีกรณีนี้ออกไปได้มีการติดต่อหาน้องหรือยัง “ผมได้ให้ทีมงานเวิร์กพอยท์พยายามติดต่อน้องเขาไป ว่าให้มาหาพ่อ มาคุยกัน ส่วนแม่ของน้องเขามันเป็นเรื่องอดีตที่ผ่านมาแล้ว เขาอาจจะมีครอบครัวใหม่ไปแล้ว หรือถ้าไม่มีผมต้องขอโทษด้วย ยังไงลูกก็คือลูกของเรา กับเรื่องที่คนมองว่าผมทิ้งลูกทิ้งเมีย มันไม่ใช่ ก็บอกไปแล้วว่าชีวิตวัยรุ่นในตอนนั้นอาจจะผิดพลาดพลั้งไป และผมก็ไม่รู้จริงๆ
ถามว่าผมโกรธน้องเขาเอามาโพสต์ในโลกออนไลน์ ผมไม่โกรธเลย ผมดีใจที่ได้ลูกเพิ่ม ไม่รู้จะโกรธน้องเขาทำไม ตัวน้องเขาก็คงไม่ได้มาหลอกหรอก เขาพูดจริง เพราะเขาก็โตจนป่านนี้แล้ว เขาน่าจะมีแฟนแล้วด้วย ผมว่าเขาคิดได้แล้ว ไม่ต้องตรวจดีเอ็นเอหรอก มาเลยครับ ซึ่งถ้าสังคมอยากให้ตรวจ ผมก็ยังยืนยันว่าไม่ต้องตรวจหรอกครับ ผมมั่นใจ”
“สำหรับที่ผมออกมาพูดวันนี้ไม่ใช่เพราะถูกกระแสสังคมกดดัน แต่ผมออกมา เพราะต้องถามความคิดเห็นของภรรยาก่อน เพราะผมก็ห่วงความรู้สึกของภรรยาและครอบครัว พอเขาโอเค ผมก็เลยออกมาพูด
สุดท้ายสิ่งที่อยากจะฝากบอกกับลูก คือ พ่อขอโทษลูกแล้วกัน ที่ปฏิเสธไปว่าเป็นเรื่องที่ผ่านมานานแล้ว จริงๆ พ่อคิดว่าเป็นเรื่องอำ แต่ในเมื่อแม่ของลูกบอกว่าลูกเป็นลูกของพ่อจริงๆ พ่อขอโทษเรื่องที่ผ่านมา มันอาจจะมีการผิดพลาดระหว่างพ่อกับแม่สองคนที่อาจจะไม่เข้าใจกัน ที่ต้องแยกย้ายกัน ซึ่งถ้าเขาอยากเรียกร้องเรื่องค่าเลี้ยงดูที่ผ่านมา ก็ต้องมาคุยกันว่าน้องต้องการอะไร จะต้องการพ่อ ผมบอกเลยว่าจะทำหน้าที่พ่อ
ถามว่าหวั่นต่อทัศนคติกระแสสังคมที่มองกลับมาไม่ดีหรือไม่ โหน่ง กล่าวว่า “ผมไม่ใช่คนแบบนั้น ผมไม่ได้ทำผิด ไม่ได้ฆ่าคนตาย แค่ได้ลูกเพิ่ม”
'''''''''''''''''''''''
ที่มา:http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=1437641552