เว็บไซต์วิทยาศาสตร์อย่าง IFL ไซเอนส์ อธิบายอาการโมโหหิวไว้ง่ายๆว่ามันคือสัญชาตญาณของการอยู่รอด โดยปกติแล้ว คาร์โบไฮเดรตที่เรากินเข้าไปจะถูกเปลี่ยนให้เป็นน้ำตาลอย่างกลูโคส ที่จะเขาไปในกระแสเลือดและไหลเวียนไปให้พลังงานกับอวัยวะและเนื้อเยื่อต่างๆในร่างกาย
พอเวลาผ่านไป ร่างกายเราใช้พลังงานหมด ระดับน้ำตาลในเลือดก็จะลดต่ำลง ทำให้สมองต้องสั่งการให้ร่างกายเติมกลูโคสเข้าไป
เมื่อสมองสั่งการไปแล้ว อวัยวะภายในต่างๆก็จะหลั่งฮอร์โมนคอร์ติโซล และ อดรีนาลีน ที่ช่วยสร้างกลูโคสออกมา แบะในสภาวะแบบนี้ ร่างกายจะเกิดความเครียด รู้สึกเหมือนถูกคุกคาม ไม่มีสมาธิในการจดจ่อสิ่งใดสิ่งหนึ่ง และทำให้หงุดหงิดได้ง่าย
เท่านั้นยังไม่พอ ทุกครั้งที่เราหิว สารเคมีในสมองที่ชื่อว่า นูโรเปปไทด์ วาย จะทำงาน โดยมันจะกระตุ้นความหงุดหงิดและอารมณ์โกรธเพื่อกระตุ้นสัญชาตญานความกระหาย เพราะการที่เรานิ่งเฉย ไม่มีอารมณ์ความรู้สึกอะไรมากเกินไปนั้นหมายถึงเราไม่กินอะไรเลย และอาจทำให้เราตายได้ในที่สุด ดังนั้น อารมณ์รุนแรงและความกระหายนี้เป็นสิ่งที่ย้ำเตือนให้เราเอาชีวิตรอดต่อไปให้ได้
ทางแก้ของอการโมโหหิวก็คือ พยายามกินอาหารให้เป็นเวลา อย่าปล่อยให้ตัวเองหิวจนเกินไป และที่สำคัญ อย่าเลือกกินอาหารฟาสต์ฟู้ดเด็ดขาด เพราะมันจะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มขึ้นสูง และจะลดลงอย่างรวดเร็ว นั่นจะทำให้เรากลายเป็นคนโมโหหิวมากกว่าเดิม