มีสัมพันธ์ลึก‘ชูวงษ์’ให้เปล่า ตกใจกลัวตํารวจตามถึงบ้าน ปมเสียชีวิต-บาดเจ็บที่ศีรษะ
ป้อนข้าว-อุรชา วชิรกุลฑล โบรกเกอร์สาวพาแม่เข้าพบกองปราบฯ ยันหุ้นที่เสี่ยชูวงษ์ ให้มากว่า 30 ล้านบาท เป็นการให้เปล่าเพราะมีความสัมพันธ์ลึกซึ้ง ขณะที่โฆษก ตร.เผย หลังร่วมสอบปากคำโบรกเกอร์สาว รู้จักเสี่ยคนตายเมื่อช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ส่วนที่มีชื่อแม่เข้ามาเอี่ยวรับหุ้น เป็นเพราะอุรชาใช้บัญชีแม่ในการซื้อขายหุ้นมาตลอด ขณะที่ น.1 ระบุหลังเรียกประชุมคณะทำงาน ยังสรุปสาเหตุการตายไม่ได้ ยังค้างอยู่อีก 10 เปอร์เซ็นต์ เพราะผู้เชี่ยวชาญหลายฝ่ายตอบคำถามไม่ได้ ล่าสุดมีรายงานผลพิสูจน์ลายเซ็นเสี่ยชูวงษ์ มีทั้งจริงและแก้ไข พฐ.ส่งคืนกองปราบฯดำเนินการต่อแล้ว
หลังการเข้าให้ปากคำที่กองปราบปรามของ น.ส.กัญฐณา ศิวาธนพล พริตตี้สาวคนสนิทนายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง เสี่ยรับเหมาก่อสร้างที่เสียชีวิตอย่างมีเงื่อนงำจากอุบัติเหตุรถชน ขณะนั่งรถออกจากสนามกอล์ฟแห่งหนึ่งเพื่อจะกลับบ้าน โดยมี พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ อดีต รมช.พาณิชย์ และ ส.ส.นครสวรรค์ เป็น คนขับ ซึ่งหลังเกิดเหตุครอบครัวนายชูวงษ์ได้ขอให้ตำรวจรื้อคดีหาสาเหตุการตายที่แท้จริง เพราะพบปมสงสัยว่านายชูวงษ์ได้โอนหุ้นมูลค่า 228 ล้านบาท ให้กับ น.ส.กัญฐณาก่อนที่จะเสียชีวิต โดยทั้งนี้ พริตตี้สาวได้ให้การกับพนักงานสอบสวนว่า หุ้นดังกล่าวที่เสี่ยรับเหมาโอนมานั้น เป็นการโอนด้วยความเสน่หาสมัครใจ เพราะคบหาสนิทสนมลึกซึ้ง ทั้งยังอยู่ระหว่างตั้งท้องได้ 7 เดือน โดยเด็กในท้องเป็นลูกของนายชูวงษ์ด้วย
โดยความคืบหน้าของคดีปริศนาเริ่มคลี่คลายออกมาเป็นเปลาะๆ เมื่อเวลา 09.15 น. วันที่ 24 ก.ค. ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) น.ส.อุรชา วชิรกุลฑล หรือน้องป้อนข้าว อายุ 26 ปี เจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด บริษัทหลักทรัพย์เออีซี จำกัด และนางศรีธรา พรหมา มารดา น.ส.อุรชา และทนายความ เดินทางเข้าพบ พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะโฆษก ตร. พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก. พ.ต.อ.อัคราเดช พิมลศรี รรท.ผบก.ป. พ.ต.อ.จิรภพ ภูริเดช ผกก.1 บก.ป. เพื่อให้ปากคำหลังสอบสวนพบว่า น.ส.อุรชาและนางศรีธราเป็นบุคคลรับโอนหุ้นจากนายชูวงษ์ด้วย
น.ส.อุรชากล่าวว่า เป็นโบรกเกอร์อยู่ในบริษัทหลักทรัพย์ เออีซี จำกัด รู้จักนายชูวงษ์เนื่องจากอยู่ในวงการหุ้น แต่ไม่ได้เป็นโบรกเกอร์ให้ และไม่ขอเปิดเผยว่ารู้จักนายชูวงษ์และ พ.ต.ท.บรรยินนานแค่ไหน ขอให้การกับพนักงานสอบสวนเท่านั้น ทั้งนี้ยอมรับว่า ได้รับโอนหุ้นจากนายชูวงษ์จริงจำนวน 3 ตัว ราคาไม่ถึง 40 ล้านบาท เป็นการให้ฟรี ไม่ได้ซื้อขาย เป็นการให้ในฐานะคนที่มีความสัมพันธ์ ต่อกัน นอกจากนี้ อยากร้องขอความเป็นธรรมกับ พล.ต.ท.ประวุฒิ เพราะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบไปที่บ้านตนเพื่อยื่นหมายเรียกเข้าให้ปากคำเมื่อวันที่ 19 ก.ค. โดยเจ้าหน้าที่นำหมายมาในเวลา 16.30 น. แต่จะให้ตนไปสอบปากคำในเวลา 17.00 น. ซึ่งไม่สามารถไปได้ทันตามที่กำหนด และตำรวจได้ให้น้องชายเซ็นรับทราบหมายไว้ โดยวันต่อมามีตำรวจเข้ามาที่บ้านอีกครั้ง แต่ตนและแม่ไม่อยู่ ก่อนที่จะบอกน้องชายตนให้โทรศัพท์เรียกตนและแม่มาพบให้ได้ ยอมรับว่าตกใจและกลัวมาก
หลังสอบปากคำกว่า 2 ชั่วโมง พล.ต.ท.ประวุฒิออกมาเปิดเผยว่า ได้เชิญ น.ส.อุรชาและนางศรีธรา เข้าให้ปากคำตามหมายเรียก แต่ทั้งคู่ไม่ได้นำหลักฐานใดๆมาชี้แจงต่อพนักงานสอบสวน ทั้งนี้ พยานหลักฐานที่ตำรวจต้องการ มีทั้งแอ็กเคาต์บัญชีโบรกเกอร์ของ น.ส.อุรชา รวมทั้งเอกสารธุรกรรมการโอนหุ้น ทั้งหมด ส่วนการสอบปากคำ เบื้องต้น น.ส.อุรชา ยืนยัน ว่า สนิทสนมคบหากับผู้ตายตั้งแต่เดือน มี.ค.ที่ผ่านมา พ.ต.ท.บรรยินก็รับทราบ ส่วนหุ้นที่ได้จากนาย ชูวงษ์นั้น ได้มา 30 กว่าล้านบาท ไม่ถึง 40 ล้านบาท แต่ไม่รู้ว่าจำนวนหุ้นจริงๆมีเท่าใด และในส่วนที่พบว่ามีการโอนหุ้นไปให้นางศรีธรา ผู้เป็นแม่ เป็นเพราะ น.ส.อุรชาใช้บัญชีธนาคารแม่ในการรับโอนซื้อขายหุ้นมาโดยตลอด และหลังรับโอนหุ้นมาแล้ว ได้ขายหุ้นส่วนหนึ่งไปในตลาดหลักทรัพย์เพื่อนำเงินมาใช้จ่าย อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบการโอนหุ้น ให้ น.ส.กัญฐณา ศิวาธนพล อายุ 26 ปี พริตตี้สาวที่เข้าให้ปากคำเมื่อวันที่ 23 ก.ค.ที่ผ่านมา และ น.ส.อุรชา พบว่าเป็นบุคคลคนละกลุ่ม สอดคล้องกับคำให้การของหญิงสาวทั้งสองว่าไม่เคยรู้จักกันมาก่อน
พล.ต.ท.ประวุฒิกล่าวอีกว่า ส่วนการตรวจสอบการโอนหุ้นของนายชูวงษ์ ขณะนี้อยู่ระหว่างตามหาตัวโบรกเกอร์รายหนึ่งที่นายชูวงษ์ฝากหุ้นไว้ เนื่องจากบุคคลนี้จะมีเอกสารที่ยืนยันการรับโอนเก็บไว้อยู่ ส่วนจะเชิญ พ.ต.ท.บรรยินเข้าให้ปากคำเพิ่มเติมหรือไม่นั้น ขอตรวจสอบว่า พ.ต.ท.บรรยินเกี่ยวข้องกับการโอนหุ้นมากน้อยเพียงใด ขณะที่การตรวจสอบเอกสารการโอนหุ้นที่ญาติสงสัยว่าจะมีการปลอมลายเซ็นนายชูวงษ์ได้รับรายงานจากกองพิสูจน์หลักฐานว่าตรวจเสร็จสิ้นแล้ว แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ รวมทั้งคลิปเสียงนายชูวงษ์ที่ส่งตรวจพิสูจน์นั้น พบว่าคลิปต้นแบบมีเสียงไม่ชัดเจน ต้องหาวิธีการเทียบ เคียงเสียงให้มากที่สุด ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการ
ต่อมาเวลา 16.20 น. หลังสอบปากคำนานกว่า 7 ชั่วโมง จึงเสร็จสิ้น น.ส.อุรชาและนางศรีธรา ได้ออกจากห้องพนักงานสอบสวน เดินหนีสื่อมวลชนที่เฝ้ารอทำข่าว ด้วยการออกประตูด้านข้างอาคาร และรีบขึ้นรถตู้ ยี่ห้อโตโยต้า ทะเบียน ฮย 5631 กรุงเทพมหานคร ออกไปทันที โดยไม่ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนใดๆ อย่างไรก็ตาม รายงานข่าวแจ้งว่า การสอบปากคำ 2 แม่ลูกนั้น เจ้าหน้าที่ได้แยกห้องสอบสวน โดย น.ส.อุรชาให้การว่า ก่อนหน้านี้ทำงานเป็นแอร์โฮสเตส อยู่สายการบินแห่งหนึ่งด้วย โดยระหว่างการสอบปากคำทั้งคู่มีสีหน้าแววตาเคร่งเครียดอย่างเห็นได้ชัด สำหรับการสอบปากคำ 2 แม่ลูก และ น.ส.กัญฐณา พริตตี้สาว เมื่อนำข้อมูลมาตรวจสอบ บางส่วนคล้ายกัน บางส่วนแตกต่าง และมีความขัดแย้งกันในตัว พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างตรวจสอบ นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่า พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วย ผบ.ตร. มีคำสั่งห้ามกองปราบปรามให้ข่าวคดีนี้ต่อสื่อมวลชน ยกเว้น พล.ต.ท.ประวุฒิ เพียงคนเดียว
อีกด้านหนึ่ง ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผบช.น. พล.ต.ต.ชาญเทพ เสสะเวช รอง ผบช.น. พ.ต.อ.นพ.พิสิฐ ธรรมสุริยะ นายแพทย์ (สบ 5) สถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตร. พ.ต.ท.ธนสิทธิ แตงจั่น นวท. (สบ 3) กลุ่มงานตรวจทางเคมีฟิสิกส์ เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.จร. และคณะพนักงานสอบสวนร่วมกันประชุมสรุปสาเหตุการเสียชีวิตของนายชูวงษ์ ว่าเกิดจากอุบัติเหตุหรือการฆาตกรรม หลังเสร็จสิ้นการประชุม พล.ต.ท.ศรีวราห์เปิดเผยว่า หลายฝ่ายยังตอบคำถามตนไม่ได้ ทั้งเรื่องของจราจรกลาง กองพิสูจน์หลักฐานและแพทย์ที่ไปตรวจ คือตอบคำถามได้ 90 เปอร์เซ็นต์ อีก 10 เปอร์เซ็นต์ ต้องรอ ผลสรุปการตรวจสอบเพราะยังไม่สมบูรณ์เกี่ยวกับสาเหตุการเสียชีวิตที่แพทย์ยังไม่สามารถให้คำตอบได้ว่า หากกระดูกสันหลังคอแต่ละซี่หักจะมีอาการอย่างไร เมื่อถามว่าฆาตกรรมหรืออุบัติเหตุอย่างใดมีน้ำหนักมากกว่ากัน ผบช.น.กล่าวว่า ตอนนี้หลักฐานยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงจากข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ที่เชิญผู้เชี่ยวชาญจาก บก.จร. สถาบันนิติเวชฯ รพ.ตร. สพฐ. มีประเด็นประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์ ที่ยังติดใจ ส่วนน้ำหนักเป็นอุบัติเหตุนั้น ยังตอบไม่ได้ ตราบใดยังไม่สามารถตอบข้อสงสัย 10 เปอร์เซ็นต์ที่เหลือ น่าจะประมาณอีก 1 สัปดาห์ จะประชุมสรุปกันอีกครั้งจะสามารถสรุปสาเหตุได้
เมื่อถามว่าผู้ที่รับโอนหุ้นที่มาให้ข้อมูลเจ้าหน้าที่ทำให้แนวทางสืบสวนง่ายขึ้นหรือไม่ พล.ต.ท.ศรีวราห์กล่าวว่า มาให้การก็ไม่เกิดประโยชน์ เพราะพยานเอกสารสำคัญกว่าพยานบุคคล พยานหลักฐานในเอกสารชัดเจนอยู่แล้ว พยานมาให้การไม่ได้มีผลอะไร เมื่อเซ็นเอกสารปลอม ไม่ว่าจะเซ็นให้หุ้นปลอมหรือรับหุ้นปลอมก็ชี้อยู่แล้ว เป็นพยานชั้นหนึ่งกว่าพยานบุคคล ขณะนี้กองบังคับการปราบปรามดำเนินการอยู่จะหารือกันในครั้งหน้า เมื่อถามว่า พยานหน่วยกู้ชีพไปถึงที่เกิดเหตุให้การว่า นายชูวงษ์ไม่ได้เสียชีวิตก่อนใช่หรือไม่ พล.ต.ท.ศรีวราห์กล่าวว่า มีคนถึงก่อนบอกยังไม่ตาย คนที่ 2 ไปถึงตายแล้ว ไปในเวลาก่อนหลังกันไม่กี่นาที สอบปากคำทั้ง 2 คน ให้การไม่ตรงกัน เอาอะไรไปวัดว่าตาย ทั้ง 2 คน ไม่ได้เป็นหมอ ถ้าชั่งน้ำหนักพยานก็มีปัญหา ถามว่าทั้ง 2 คนเป็นแพทย์หรือไม่ เคยมีประสบการณ์เก็บศพมากี่ศพ รู้จักสัญญาณชีพหรือไม่ บางคนเป็นกู้ชีพ 2 วัน เป็นกู้ชีพ 20 ปี ก็ต้องตรวจสอบ แต่ต้องฟังแพทย์เป็นหลัก
ด้าน พล.ต.ต.ชาญเทพ เสสะเวช รอง ผบช.น.กล่าวว่า ลายเซ็นหรือคลิปเสียงเป็นหน้าที่ บก.ป.เพื่อให้ทราบว่า หากเป็นการฆาตกรรมต้องรู้ว่า ใครได้ผลประโยชน์ ใครเสียผลประโยชน์ ถ้าเป็นอุบัติเหตุต้องหาสาเหตุให้ได้ว่าเกิดอย่างไร บช.น.เป็นพนักงานสอบสวน เร่งดำเนินการตรวจสอบ โดยตอนนี้ไม่สามารถสรุปได้จนกว่าจะดำเนินการทุกส่วนเสร็จสิ้น ผบช.น.สั่งการให้ตรวจสอบเพิ่มเติมเรื่องเทคนิคต่างๆ ของระบบรถยนต์ที่บางส่วนไม่ทำงาน ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า เนื่องจากขาดการบำรุงรักษา ศูนย์โตโยต้าไม่มีผู้เชี่ยวชาญด้านนี้ และรถนำเข้ามา 10 กว่าปีแล้ว ทั้งนี้ ยังไม่สามารถตอบคำถามให้ชัดเจนในหลายเรื่องได้ อย่างการชันสูตรพลิกศพ ความเร็วของรถที่ยังไม่ชัดเจน ตามคำให้การของ พ.ต.ท.บรรยิน ว่าใช้ความเร็ว 80 กม.ต่อชั่วโมง รอยเบรกไม่ปรากฏระหว่างรถพุ่งเข้าชนฟุตปาทสูง 15 ซม. เสยขึ้นไปแล้วคนที่นั่งภายในจะได้รับแรงกระแทกน้อยลงหรือมากขึ้น ผู้เชี่ยวชาญยังไม่สามารถให้คำตอบได้ ต้องนำไปเทียบกับภาพกล้องวงจรปิด อย่างไรก็ตาม ได้สอบถามแพทย์ว่าการเสียชีวิตจากการถูกตีกับการกระแทกแตกต่างกันอย่างไร ยังไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลได้ ต้องรอสอบสวนเพิ่มเติมก่อน
ขณะที่ พ.ต.อ.นพ.พิสิฐ ธรรมสุริยะ นายแพทย์ (สบ 5) สถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตร.กล่าวว่า การเสียชีวิตเกิดจากการบาดเจ็บที่ศีรษะเป็นสาเหตุหลัก ส่วนกระดูกสันหลังส่วนกระดูกคอหัก อาจจะเป็นการเสริม แต่ลำพังคอหักในส่วนกระดูกระดับล่างๆไม่ทำให้เสียชีวิตในระยะเวลาอันสั้น หากได้รับการรักษา ส่วนร่างกายศพกระแทกกับตัวรถหรือจากสาเหตุอื่น ขณะนี้แนวโน้มจากภายในตัวรถ แต่ก็อย่างข้อสงสัยที่ ผบช.น.ตั้งไว้ เมื่อถามในเรื่องของระยะเวลาเสียชีวิตผิดปกติหรือไม่ พ.ต.อ.นพ.พิสิฐกล่าวว่า ตรงนี้คงสรุปได้ลำบาก แต่ไม่มีความผิดปกติในเรื่องเกี่ยวกับความสอดคล้องกันกับเหตุที่รถไปชน และระยะเวลาการเสียชีวิตจากที่ชนแล้ว ส่วนร่องรอยบาดแผล รอยช้ำที่ตาเกิดจากการกระแทก ต้องอาศัยหลักฐานอย่างอื่น และข้อมูลประกอบเพื่อที่จะบอกได้ชัดเจน
ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร.กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ว่าผลสรุปจะออกมาเป็นอุบัติเหตุหรืออะไรก็แล้วแต่ เชื่อว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกหน่วยงานที่เข้าไปเกี่ยวข้องคลี่คลายคดี จะสามารถให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และให้ความกระจ่างกับสังคม ได้ให้พนักงานสอบสวนดำเนินการไป ตนไม่ก้าวล่วงและจะไม่ถามด้วยว่าไปถึงไหน เพราะเชื่อมั่นในตัวผู้ใต้บังคับบัญชาทุกนาย ถ้ามีพยานหลักฐานที่บ่งบอกว่าเป็นอุบัติเหตุหรืออาชญากรรม เวลานั้นจะมีคำตอบที่ชัดเจน โดยมีพยานหลักฐานอ้างอิง ตามหลักนิติวิทยาศาสตร์ ขอให้ผู้ที่เกี่ยวข้องยอมรับในสิ่งเหล่านั้น อย่าคิดเอง
ค่ำวันเดียวกันมีรายงานข่าวว่า ผลตรวจลายเซ็นของนายชูวงษ์ในใบหุ้นจากกองพิสูจน์หลักฐานพบว่า บางส่วนเป็นของจริง แต่มีบางส่วนที่มีการแก้ไข ซึ่งตรงนี้ได้ส่งผลการตรวจไปยังพนักงานสอบสวนกองปราบฯ เพื่อหาหลักฐานบางส่วนมาประกอบเทียบเคียง
