วันที่ 05 กรกฎาคม พ.ศ. 2559 เวลา 14:08 น.

เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 5 ก.ค. ที่ศาลทหารกรุงเทพ นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) พร้อมแกนนำนปช. เดินทางมาเยี่ยมและให้กำลังใจกลุ่มผู้ต้องหา 13 คน ที่ขัดคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ฉบับที่3/2558 ห้ามมั่วสุมเกินกว่า 5 คนขึ้นไป และทำกิจกรรมยั่วยุปลุกปั่นทางการเมือง ในกิจกรรมรณรงค์ประชาสัมพันธ์ประชามติ ที่ตลาดเคหะบางพลี อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ เมื่อวันที่ 23 มิ.ย. ที่ผ่านมา
นายจตุพร กล่าวว่า ตนและคณะเป็นคนที่อยู่ในเหตุการณ์พฤษภาคม ปี 2535 ได้หารือกันเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องของสีเสื้อ แต่เป็นอุดมคติของคนอยู่ในมหาวิทยาลัยในวันที่บ้านเมืองเป็นเผด็จการ และไม่เป็นประชาธิปไตย พวกเขาก็ต้องต่อสู้ ตนและคณะจึงมาให้กำลังใจและขอขอบคุณทุกคน เพราะได้เห็นพลังอนาคตประเทศที่มีคนหนุ่มสาวกล้าต่อสู้กับเผด็จการ ทั้งนี้ หวังว่า 7 คนจะได้รับความยุติธรรม

“ผมเชื่อว่าความคิดของพวกเขาเป็นความคิดที่ถูกต้อง การที่ไม่ยื่นประกันตัวเพราะเขาไม่ผิด ทั้ง 7 คนถือเป็นของร้อนทางการเมือง คิดว่ารัฐบาลคงจะฉลาด ทั้งหมดอยู่ที่อำนาจ เรื่องนี้ไม่ใช่ถูกหรือผิด แต่เป็นเรื่องความเชื่อทางการเมือง ไม่ผิดข้อหาอะไร เอกสารที่แจกไม่ผิดทางกฎหมาย ขอให้ผู้มีอำนาจใช้อำนาจอย่างพอดี และตอนนี้ท่านกำลังจะใช้หมดแล้ว เพราะหลายกรณีมองว่าเป็นการลุแก่อำนาจ นักศึกษาควรได้รับอิสรภาพในวันนี้ และขอร้องเรียนพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงและรมว.กลาโหม เรื่องที่คุมขังเรือนจำทหาร ขอให้นำแบบเรือนจำของกรมราชทัณฑ์เป็นแบบอย่าง เพราะการสูญสิ้นอิสรภาพก็มากพอแล้ว แต่กรงขังที่นี้ยิ่งกว่ากรงไก่ ดังนั้นควรจะจัดการให้ดีขึ้น” นายจตุพร กล่าว

ต่อมาเวลา 13.20 น. ตุลาการศาลทหาร นั่งบัลลังก์พิจารณาสอบสวนคดี เพื่อรับคำร้องฝากขังผัดที่ 2 ของพนักงานสอบสวน สภ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ ที่ผู้ต้องหาขัดคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ฉบับที่3/2558 ห้ามมั่วสุมเกินกว่า 5 คน และทำกิจกรรมยั่วยุปลุกปั่นทางการเมือง ในกิจกรรมรณรงค์ประชาสัมพันธ์ประชามติ ที่ตลาดเคหะบางพลี อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน ที่ผ่านมา โดยในห้องพิจารณาคดีมีญาติของผู้ต้องหา สื่อมวลชน นายวรเจตน์ ภาคีรัฐ อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ นางพวงทอง ภวคพันธุ์ อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พร้อมด้วยเจ้าที่ตัวแทนสถานทูต เข้าร่วมสังเกตการณ์ ประกอบไปด้วย สหรัฐอเมริกา แคนาดา เยอรมันนี ฝรั่งเศส สหราชอาณาจักร ฟินแลนด์ เดนมาร์ค สวีเดน เนเธอร์แลนด์ และสหภาพอียู เข้าร่วมสังเกตการณ์พิจารณาคดีประมาณ 25 คน